Freigegeben Surachai sofort und ohne Bedingungen.

The law is silent @ the time of war.Liberate Thailand to Frees.‎Our real enemy is monarchy system.

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4)

คาดว่าข่าวตอนนี้ ที่กำลังดังอยู่ทั่วโลก ยกเว้นตอแหลแลนด์ (เพราะสื่อไหนกล้าลงข่าวนี้ในตอแหลแลนด์ก็เตรียมตัวไปทัวร์ ค้างคืน รวมที่พักและอาหาร 15 ปี กับอีก 14 ปี 364 คืน ที่ฮ่องกรง หรือ คุก กันยกโรงพิมพ์ได้เลย) คือข่าวว่าทางการเยอรมัน ได้สั่งยึดเครื่องบินประจำตัว ของ เอดส์ หลังจาก เอดส์ ใช้เครื่องบินลำนี้ ลงจอดที่สนามบินที่เยอรมนี เพื่อเข้ารับการถ่ายเลือด ที่เอดส์วิลล่า ณ มิวนิก (รายละเอียดเชิญอ่าน ลิเก สตอรี่ ตอน 3) การยึดเครื่องบินลำนี้ จะทำให้เอดส์โกรธขนาดไหน อันนี้ข้าพเจ้าไม่รู้ แต่ถ้าอีก 2-3 เดือน มีคำสั่งปลดใครในกองทัพอากาศตอแหลแลนด์ ก็น่าจะ ซ.ต.พ. กันได้นะว่าคำสั่งใคร แต่เราอย่าไปสนใจแค่อารมณ์แปรปรวนของคนโรคจิตติดเอดส์คนเดียวเลย เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
เมื่อ 20 กว่าปีก่อน รัฐบาลตอแหลแลนด์ เปิดประมูลสร้างทางด่วน ดอนไม่เมืองโทลล์เวย์ เพื่อใช้สำหรับเดินทางไปยัง สนามบินดอนไม่เมือง ท่าอากาศยานประจำเมืองกรุงลิเก เมืองหลวงแห่ง ราชลิเกอาณาจักรตอแหลแลนด์ (Li-Kay King State of Torlaeland) ก็ได้เรียกบริษัท Dywidag มาสร้างทางด่วนให้ แต่ว่าก็จ่ายเงินให้ไม่ครบ ขาดไป เทียบเป็นเงินมูลค่า 30 ล้าน ยูโร ทวงเท่าไหร่ก็ไม่จ่าย จะไม่จ่ายด้วยเหตุผลอะไร ก็ไม่มีใครรู้ได้
บริษัท Dywidag ก็พยายามทวงหนี้อยู่เรื่อยๆ แต่รัฐบาลตอแหลแลนด์คณะใหม่มา ก็คงเห็นว่า เรื่องอะไรตูจะต้องไปใช้หนี้ที่พวกตูไม่ได้ก่อ ก็เลยทำไม่รู้ไม่ชี้ตลอดมา จนถึงปี 2001 บริษัท Dywidag ก็ขายธุรกิจให้บริษัท Walter Bau ซึ่งไม่นานมานี้ บริษัท Walter Bau ก็เจ๊งบ๊ง ขนาดเอาเจ้าของบริษัทไปขายให้บาร์เกย์ เพื่อขายถั่วดำใช้หนี้แล้ว ก็ยังมีหนี้อีกมากมาย ไม่พอจะไปจ่ายให้เจ้าหนี้
ฉนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ (liquidator) จึงมาดูในบัญชีว่าบริษัทนี้มีลูกหนี้ที่ยังค้างเงินไม่จ่ายอยู่รึเปล่า เผื่อจะได้ตามไปทวง จะได้มีเงินจ่ายเจ้าหนี้ ก็เลยเจอว่า รัฐบาลตอแหลแลนด์ ยังติดเงินบริษัท Dywidag (ซึ่งภายหลัง Walter Bau ซื้อกิจการไป ฉนั้นหนี้ของ Dywidag ก็น่าจะกลายเป็นของ Walter Bau ถ้าตอนขายกิจการมีการตกลงเรื่องนี้เอาไว้) อยู่ 30 ล้านยูโร จึงทวงรัฐบาลตอแหลแลนด์ให้จ่ายคืนมา ซึ่งแน่นอนว่า รัฐบาลตอแหลแลนด์ ย่อมต้องหน้าด้านไม่ยอมจ่ายคืน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะว่าสิ่งที่หน้าด้านกว่านี้ พวกอำมาตย์ตอแหลแลนด์ยังเคยทำมาแล้ว ฉนั้น กะอีแค่เบี้ยวหนี้ฝรั่ง ทำไมจะไม่กล้าทำ
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเยอรมนี จึงนำเรื่องขึ้นศาล ขออนุญาติศาล เพื่อยึดทรัพย์สินของรัฐบาลตอแหลแลนด์ ที่ตนเองสามารถยึดได้ เพื่อมาใช้หนี้จำนวนนี้ ซึ่งในเมื่อหลักฐานชัดเจนว่ารัฐบาลตอแหลแลนด์ ยังไม่ได้จ่ายหนี้ ศาลก็ย่อมอนุญาติ แต่ว่าปัญหาคือจะยึดอะไรได้ล่ะ? เครื่องบินของการบินตาย งั้นเหรอ? ก็ยึดไม่ได้ เพราะว่าการบินตาย นั้น ถึงแม้รัฐบาลตอแหลแลนด์ จะถือหุ้นส่วนใหญ่อยู่ แต่ก็มีการขายหุ้นให้เอกชนถือหุ้นได้นิดๆ หน่อยๆ แต่มันก็ทำให้ การบินตาย กลายเป็น บริษัท ของ มหาชน ไม่ใช่ของรัฐบาล ฉนั้น จะไปยึดเครื่องบินการบินตาย เวลาบินลง ก็ทำไม่ได้
ธรรมดา เอดส์ เวลามาเยอรมนี ก็นั่งเฟิร์สคลาส การบินตาย มานะ ซึ่งเวลาพี่แกบินไปบินกลับทีนึง จะเอาของไปๆ มาๆ เป็นตันๆ เลย แน่นอนพี่แกไม่เคยควักกระเป๋าจ่ายค่าปรับที่น้ำหนักเกิน และการบินตาย ก็ไม่เคยกล้าทวง เพราะถ้าทวงเมื่อไหร่ คนทวงก็เตรียมตัวไปหางานใหม่ได้ ถ้าโชคดี หรือถ้าโชคร้าย ก็โดนแปรสภาพเป็น ปุ๋ยอินทรีย์แน่ๆ แถม ในเคบิน เฟิร์สคลาส เวลาเอดส์เดินทาง ห้ามมีผู้โดยสารอื่นๆ ที่พี่แกไม่ต้องการ ฉนั้น ถ้าพี่แกไม่อยากให้ใครขึ้นเครื่องร่วมเคบินกับพี่แก ผู้โดยสารคนนั้นก็ไปนอนแอร์พอร์ตโฮเต็ล แล้วเดินทางวันรุ่งขึ้นเอาละกัน (แน่นอนการบินตายต้องจ่ายค่าห้องให้ผู้โดยสารพวกนั้น) แถม อำมาตย์ 3 ราย คือขันทีเฒ่ากาลี อ่านั้น ปันยาชุนชุน และ หมดสิทธิ์ เศวตกะลา ก็เคยบอกทูตอเมริกา ว่าส่งใครไปเป็นทูตประจำที่เยอรมนีทีไรมีปัญหาทุกที ต้องขอย้ายประเทศกันแทบไม่ทันอยู่บ่อยๆ เพราะว่าถ้าเอดส์ จะเดินทางมาเยอรมนีเมื่อไหร่ ทูตจะต้องเสียเวลาทำงาน เดินทางจาก เบอร์ลิน ไป มิวนิก เพื่อไปต้อนรับเอดส์ ทำให้งานไม่เดิน
แต่เราพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อนละกัน เอาเป็นว่า ก็แค่รู้ว่า ธรรมดา เอดส์จะนั่งการบินตาย ไปกลับเยอรมนี แต่คราวนี้ไม่รู้คิดยังไง นั่งเครื่องบินประจำตัว ที่ตั้งชื่อตามลูกตัวเองว่า “ปังปอนด์” ไปเยอรมนี ทีนี้ เครื่องบินลำนี้นี่ เจ้าของคือ กองทัพอากาศตอแหลแลนด์ ซึ่ง เป็นหน่วยงานราชการของรัฐบาลตอแหลแลนด์ ฉนั้น เจ้าของเครื่องบินลำนี้ตามกฏหมาย ก็คือ รัฐบาลตอแหลแลนด์ นั่นเอง
ฉนั้น เมื่อมีกำหนดการว่า เครื่อง “ปังปอนด์” จะลงที่เยอรมนี เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ลิงโลด ม๊ากเค่อะ เพราะว่าโอกาสจะยึดสมบัติรัฐบาลตอแหลแลนด์ มาถึงแล้ว จึงทำยื่นเรื่องต่อศาลขออนุญาติยึดเครื่องบินลำนี้ทันที แน่นอนว่า ศาลอนุญาติ ฉนั้น เมื่อเครื่องบินของเอดส์ ลงถึงเยอรมนี ก็โดนเจ้าหนี้ยึดไปขายเลหลัง เอาเงินโลด
เอดส์ จะอยู่บนเครื่อง ตอนโดนยึดรึเปล่า ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ได้ แต่ถ้าอยู่ด้วยก็คงยิ่งมันส์ เพราะพี่แกจะต้องแค้นสุดๆ กลับตอแหลแลนด์ เมื่อไหร่ นายก หมี โดนเอดส์ลากคอมาจับตบกะโหลกคว่ำคาตีน อย่างแน่นอน
ทางการตอแหลแลนด์ รู้ข่าว ก็ต้องเต้นเป็นธรรมดา เพราะว่ายึดอะไรไม่ยึด มายึดเครื่องบินประจำตัวของเอดส์ เดี๋ยวเอดส์โมโหขึ้นมา ก็เจอคำสั่งโดนแปรสภาพ กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ (หรือกลายเป็น ศพ น่ะแหละ) กันไปตามๆ กัน ทางการ จึงส่ง กุ๊ย รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศตอแหลแลนด์ หนึ่งในคณะผู้ก่อการร้าย ในคณะ พันธมารเพื่ออำมาตยาธิปไตย ในพระบรมราชินีโรงลิเกอุปถัมภ์ ผู้รับคำสั่งจาก วาฬ ในการ ยึดสนามบิน นรกภูมิ เมื่อ 3 ปีก่อน ไปเจรจาให้คืนเครื่องบินมาให้เอดส์ เพื่อไม่ให้พวกของตัวเอง โดนเอดส์ สั่งลูกน้องมายำตีน กันยกกรม
ผลสำเร็จของการเจรจา ถ้าพูดเรื่อง ในแง่เหตุผล ทฤษฏี แล้ว กุ๊ย แพ้ลุ่ยแน่ๆ เพราะว่า กุ๊ย ให้ข่าวรอยเตอร์ ไปว่า เครื่องบินลำนี้ ไม่ใช่เครื่องบิน ของรัฐบาลตอแหลแลนด์ มันเป็นเครื่องบินของเอดส์ เพราะรัฐบาล โอนให้เอดส์ แล้ว และศาลเยอรมนี ก็หูเบา เชื่อหลักฐาน ปลอม ของโจทก์ เลยตัดสินคดีออกมาผิดๆ
แต่ตามหลักฐานใน airfleets.com เว็ปไซท์ที่มีการบันทึกเอาไว้หมดว่า เครื่องบินในโลกนี้ ใครเป็นเจ้าของบ้าง บันทึกเอาไว้ชัดเจน ว่า เจ้าของ เครื่อง “ปังปอนด์” คือ กองทัพอากาศตอแหลแลนด์ ไม่เคยมีหลักฐานว่าเคยมีการโอนเครื่องลำนี้ ให้เอดส์ แต่อย่างใด
แต่จริงๆ แล้ว หากจะมีการโอนให้เอดส์แล้ว ทางการเยอรมนี ก็มีสิทธิ์ยึดเครื่องบินลำนี้อยู่ดี เพราะว่า ตามกฏหมาย เจ้าหนี้ มีสิทธิ์ที่จะยึดทรัพย์สิน ที่ลูกหนี้ มอบให้ผู้อื่นฟรีๆ หรือไม่ก็ขายให้ผู้อื่นในราคาที่ถูกกว่าราคาจริงของสินค้ามากๆ มาเป็นของตัวเอง เพราะว่า ส่วนใหญ่แล้ว พวกลูกหนี้ที่ทำแบบนี้ เป็นพวกที่อยากเบี้ยวหนี้ แต่ว่ากลัวโดนยึดทรัพย์ ถ้าเบี้ยว เลยแกล้งทำเป็นทำเรื่องยกทรัพย์สินของตัวเองให้คนอื่นไปฟรีๆ เพื่อว่า เจ้าหนี้ จะได้มายึดทรัพย์สินชิ้นนั้น ไม่ได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้ เมืองฝรั่ง เขาตัดสินกันในศาล มาเป็นร้อยๆ ปี แล้วว่า การโอนทรัพย์สินย่อมต้องเป็นโมฆะ เพราะก่อนที่คุณ จะสามารถให้อะไรใครได้ คุณต้องเป็นเจ้าของ ของสิ่งนั้นซะก่อน ถ้าคุณยังเป็นหนี้เขาอยู่ ของชิ้นนั้น ก็ไม่ใช่ของคุณ คุณต้องใช้หนี้ให้หมดก่อน คุณถึงจะให้ของชิ้นนั้นกับคนอื่นได้

ฉนั้น การที่ กุ๊ย พูดอะไรโง่ๆ ออกมาแบบนั้น ก็มีความเป็นไปได้ 2 อย่าง อย่างแรกคือ กุ๊ย จงใจจะตอแหลหน้าด้านๆ เพื่อรักษาหน้าประเทศตอแหลแลนด์ แต่ถ้าทำแบบนั้น กุ๊ย มีสิทธิ์หน้าแตกได้ เพราะว่าเยอรมนีไม่ใช่ตอแหลแลนด์ หากว่าไปตอแหลหน้าด้านๆ แล้วเขาพิสูจน์ได้ว่าตอแหล คราวนี้ กุ๊ย จะโดนโจทก์ ฟ้องกลับ ว่าหมิ่นประมาทเขา ไปหาว่าเขาใช้หลักฐานปลอม ทำให้เขาเสียชื่อเสียง และแน่นอนว่า ศาลเยอรมนีนั้น อำมาตย์ตอแหลแลนด์สั่งไม่ได้ ไม่มีทางตัดสินให้ กุ๊ย ไม่แพ้ได้ ถ้ากุ๊ย ตอแหลออกมาจริงๆ
ความเป็นไปได้ ที่ 2 ก็คือ กุ๊ย โง่ซะจนไม่รู้ว่า การยกของอะไรให้คนอื่นฟรีๆ โดยที่ยังไม่ได้ใช้หนี้เจ้าหนี้นั้น การโอนครั้งนั้นจะเป็นโมฆะทันที สำหรับข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าคิดว่า กุ๊ย นั่น คงจะตอแหลหน้าด้านๆ มากกว่า เพราะ กุ๊ย เอง ก็ตอแหลตอหลดอยู่ทุกวี่วันในตอแหลแลนด์ แต่ว่าที่ยังไม่เคยเป็นอะไรเพราะศาลตอแหลแลนด์นั้น ผู้พิพากษาแต่ละตัวก็สุนัขรับใช้ของ วาฬ ทั้งนั้น ฉนั้น เมื่อกุ๊ย ก็เป็นสุนัขรับใช้ของ วาฬ เช่นกัน ก็ไม่ต้องกลัวว่าขึ้นศาลในตอแหลแลนด์ แล้วจะแพ้ กุ๊ย เลยลืมไป เอานิสัยตอแหลหน้าด้านไปใช้ที่เมืองนอก ซึ่งคราวนี้ ไปกล่าวหาเขาว่าตอแหล เรามาคอยดูกันดีกว่า ว่า เขาจะฟ้องร้อง กุ๊ย หรือไม่ ถ้าฟ้อง อย่าหวังว่า วาฬ จะสั่งศาลเยอรมนีได้ หากเขาเรียกร้องค่าเสียหายมากๆ กุ๊ย ไม่มีจ่าย เรามาดูกันดีกว่า ว่าศาล จะสั่งให้ กุ๊ย ไปหาเงินมาจ่ายอย่างไร สำหรับข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าว่า สั่งให้มันไปทำงานในสำนักนางโลม ขายตูดใช้หนี้ท่าจะดี และถ้าจะให้ดีกว่านั้น สำนักนั้นควรมีแมงดาโหดๆ คุมอยู่ด้วย ถ้า กุ๊ย งอแง ไม่ยอมขายตูด ก็จะโดนพวกแมงดาโหด รุมจับมัดแล้วดีดหำให้หน้าเขียวชักตาตั้งไปเลย คงจะมันส์น่าดู
ติดตามชม ลิเก สตอรี่ Episode 5 เร็วๆ นี้ นะฮ่ะ