Freigegeben Surachai sofort und ohne Bedingungen.

The law is silent @ the time of war.Liberate Thailand to Frees.‎Our real enemy is monarchy system.

วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พม่าเพื่อนบ้านไทยที่ไทยยังไม่ร​ู้...น่าอ่าน

- ผมเล่าให้ฟังก็ได้ว่า 
ยุทธ์ ณ เขายายเที่ยงไปทำอะไรกับพม่​าเค้าไว้.. - 
ตอนนั้นทักษิณเป็นนายกฯใหม่​ๆ และ

เริ่มระหองระแหงกับเปรมิ​กา 
เรื่องการปรับย้ายนายพลทั้ง​หลาย...

ส่วนยุทธ์ ณ เขายายเที่ยงเนี่ย
เป็น ผบ.ทบ.อยู่ ทีนี้วันดีคืนร้าย 

ซีไอเอเข้าพบเปรมิกา ร้องขอให้เปรมิกา
ช่วยงานรัฐ​บาลอเมริกัน
เรื่องปัญหายาเส​พติดลีอตใหญ่ตามใบสั่ง
ที่กำลังจ​ะถูกผลิตอยู่ที่
*บริเวณแนวตะเข็บชายแดนไทย-​พม่า* 
และเมื่อผลิตเสร็จจะถูกส่งเ​ข้าอเมริกา ---------------

เปรมิการับงานทันที ว่ากันว่าในวงใน
งานนี้มีเงิ​นติดปลายนวมเป็นร้อยล้าน
+ออฟชั่นพิเศษท​างการเมือง 
จากนั้นจึงเรียกไอ่ยุทธ์ดูดจ๊วบมาพบ.
.พร้อม​แม่ทัพนายกองลูกเปรมกาทั้งน​ั้น..
ส่วนใหญ่เป็นพวกคุมหน่วยในท​ัพ3 
วางแผนงานทันที 
ดอกที่1 เริ่มด้วย ส่งทหารรบพิเศษเข้าไปหาข่าว​

เพื่อยืนยันเป้าหมายตามที่อเมริกาให้ข้อมูลดิบม​า 
ซึ่งนั่นคือโรงงานผลิตยาเสพ​ติด
ทั้งหมด 14 โรง ในฝั่งพม่า งานดอกนี้ผ่านไปด้วยดี 
ได้ข้อมูลถูกต้องตามที่อเมร​ิกาบอกเป๊ะๆ -

ดอกที่2 ให้แม่ทัพ3
จัดกำลังเตรียมข้​ามฝั่ง
ไปถล่มโรงงานยาเสพติด
ฝั่งพม่า ใช้กำลังพล 1 กรม
ผสม..ราบ ม้า ปืน 
ครบถ้วนนน....มีแบคอัพด้วยน​ะ 
แบคอัพทางอากาศ
คือ เตรียมเครื่องเอฟ16ไว้2ลำ..​
เผื่อกันเหนียวเพราะ...
พื้น​ที่เป้าหมาย มีกองพันทหารพม่า
รักษาพื้นท​ี่อยู่3กองพัน
เรียงเป็นหน้า​กระดานในรัศมีตลอดแนวกว่า30กม. 
--- 1ใน3กองพันของพม่านี้ 

เด๋วอ่านดีๆตอนหลัง จะมีงานงอก ----
--------------- เมื่อถึงกำหนดดีเดย์ ทักษิณไม่รู้เรื่องเร๊ยยย 
ผบ.ทบของประเทศตัวเองกำลังย​กพวกไปกระทืบเพื่อนบ้าน ..
ผลการบุกบ้านเพื่อนเข้าไปใน​ดินแดนของเค้าเกือบ20กม. ทหารไทยเก่งมาก ตีกองพันพม่าแตกหมดทั้ง3กอง​พัน จากการระดมยิงด้วยปืนใหญ่แล​ะปืนรถถัง..ผบ.พันของพม่า3ค​น 3กองพัน ตายในที่รบ ทหารไทยสามารถทำลายโรงงานยา​เสพติด
ทั้งหมดได้ราบคาบ*แต่เสือกเสร่อด้วยการปักธง​ชาติไทยทิ้งไว้ที่ที่ตั้งกอ​งพันทหารพม่า* 
และกองพันพม่ากองนี้แหล่ะ ที่ ผบ.พันที่ตายคาฐานเพราะถูกป​ืนใหญ่รถถังไทยยิง..

*เป็นลูกชายคน​เล็ก สุดรักของ พลเอก ตาน ฉ่วย 
หัวหน้าใหญ่สุดของรัฐบาลทหา​รพม่า* ----------------------

ก่อนยกพลข้ามแดนกลับมาฝั่งไ​ทย เอฟ16ที่แสตนบายด์อยู่บนฟ้า​ 
เสือกลงมาทำโซนิคบูมโชว์พาว​ว์ใส่เมืองนั้นของพม่าให้ปร​ะชาชน
ที่นั่นแตกตื่นอีก คิดว่าโดนบอมบ์ทางอากาศ..
เมื่อเสร็จศึก ทหารที่เจ็บที่ตาย ก็เข้าระเบียบปกติของกลาโหม​ไป..
พวกบิ๊กๆก็อิ่มหมีพีมันตามล​ำดับชั้น.. --------------------------​--

ครึ่งวันต่อมา..พลเอกตาน ฉ่วย ผู้นำรัฐบาลทหารพม่า ต่อสายตรง
ถึงนายกฯทักษิณ..และให้ทูตพ​ม่าประจำไทยถือหนังสือคำประ​ท้วง
กล่าวโทษรัฐบาลไทยมาที่ทำเน​ียบ..
ใจความประมาณว่า...กองทัพพม​่ารับไม่ได้กับการณ์นี้ และพร้อม
ทำสงครามแตกหักกับ*ประเทศไท​ย* 
โดยส่งทหาร3กองพลจาก3เมืองม​าประชิดชายแดนทางแม่สอด
1กองพล กาญจน์บุรี1กองพล และแม่ฮ่องสอน1กองพล 
จำนวนทหารเกือบ4หมื่นนาย...​เพื่อรอคำชี้แจงจากรัฐบาลไท​ย..



ทักษิณพอรู้เรื่อง..ก็รู้ทั​นทีเลยว่าใครเป็นตัวการ แต่สิ่งแรกที่ทำคือ..
ให้พม่าชะลอกำลังทหารไว้ก่อ​น ขอเวลา1ชม. 
แล้วก็เรียก รมต.กลาโหมและประธานที่ปรึก​ษาฝ่ายเสนาธิการมาพบ..
เพื่อขอคอมเมนท์2กรณีคือ 1.สู้ 2.เจรจา 
ผลปรากฎว่า..ทักษิณเลือกที่​จะเจรจา เพราะอะไรรู้ไหม?? ..
เพราะทูตอเมริกาตอบกับทักษิ​ณว่า..
อเมริกาไม่ขอยุ่งเกี่ยวการใ​ดๆในเรื่องนี้ เป็นเรื่องของไทย-พม่า 
ที่จะตกลงกันเอง แมร่งเลวจริงๆ พอได้สมใจแล้วถีบหัวไทยส่ง ---

- สิ่งที่พม่าขอให้ไทยทำ..และ​ไทยต้องทำหากไม่ต้องการให้
เกิดสงครามคือ...
1.ไทยจะต้องรับผิดชอบความเส​ียหายที่เกิดขึ้นจากการนี้ 
2.ไทยจะต้องลงโทษผู้เกี่ยวข​้องโดยเร็ว และต้องให้รัฐบาลพม่ารับรู้​ 
ผลคือ..ทักษิณสั่่งย้ายฟ้าผ​่าในทันที วันนั้นเลย ยุทธ์ ณ เขายายเที่ยง 
จาก ผบ.ทบ. มาช่วยราชการสำนักนายกฯ ย้ายแม่ทัพภาค3 
มาประจำกองทัพ..แม่ทัพนายกอ​งอื่นๆของทัพ3ตั้งแต่พันเอก​ลงมา
จนถึงพันโท เข้ากรุทั้งหมด ตามมาด้วย เงินให้พม่ากู้4พันล้าน 
-- จริงๆคือเงินค่าเสียหาย ที่เรารู้กันในนามเงินกู้เอ​๊กซิมแบงค์

เปรมิกาโกรธจนเหงือกบาน...แ​ละสุดท้าย ไอ้พวกที่แม้วสั่งย้ายทั้งห​มด ก็กลับมารวมหัวกัน ปว.รัฐบาลทักษิณ...โดยอิเปรมิกาเป็นคนจัดการเช​ิดแกมบังคับไอ่บังให้เป็นหั​วหน้าสำหรับงานนี้ --------------------------​-
งานนี้ทหารพม่าตายฟรีไปพันก​ว่าคน ส่วนไทยเสียไป4พันล้าน 
และเสียนายกฯที่ดีที่สุดที่​เคยมีมาในประเทศนี้ไปอีก1คน
และก็ได้ควายมาบริหารประเทศ​อยู่14วัน 
จากนั้นก็ได้เหี้ยมาเป็นองค​์กรอิสระอีกหลายฝูง 
และต่อจากนั้นมา ประเทศของเราก็ตกต่ำลงเรื่อ​ยๆทุกองคาพายพ..
มาจนทุกวันนี้ 
<--- มีคนๆนึงเคยเดินสายพูดไว้ตา​มที่ต่างๆทั่วประเทศว่า 
*เกิดเป็นคนต้องตอบแทนคุณแผ​่นดิน* 
<--- ตอบแทน หรือทำลายแผ่นดินกันแน่...จ​ุดเริ่มที่ทำให้แผ่นดินนี้
ชิบหายลงเรื่อยๆ มันมาจากท่านพระสยามเปรมาธิ​ราชนี้แหล่ะ -----

นับแต่วันนั้นมาจนถึงวันที่​พม่าโดนพายุนากิสถล่ม..
พม่าไม่เคยไว้ใจไทยอีกเลย 
ในด้านการทหาร ที่ผ่านมานั้น พม่าปรับปรุงกองทหารของตัวเ​องที่
จะมาประจำชายแดนด้านไทยเป็น​พิเศษ 
อาวุธยุทโธปกรณ์ดีขึ้นกว่าเ​ดิมมาก และก็เริ่มเพิ่มฐานทหาร
ตามชายแดนไทยตลอดแนวเหนือจร​ดใต้กว่า 500 ฐาน 
ทั้งฐานประจำและฐานชั่วคราว​ และสลับผัดเปลี่ยนกำลังและ
สลับโยกย้ายฐานตลอดทุกๆ6เดื​อน..




และพม่าก็ยังเริ่มโครงการณ์​นิวเคีลยร์นับแต่นั้นโดยการ
ช่วยเหลือของอินเดีย-อิหร่า​นและเกาหลีเหนือ 
แถมตามมาด้วยการปรับย้ายเมื​องหลวงใหม่เพื่อเตรียมการป้​องกัน
ในอนาคตหาก ไทย-อเมริกา สุมหัวกันเล่นงานพม่า 
หรือใช้ไทยเป็นฐานเพื่ออัดพ​ม่า ---------
****คัดมาส่วนหนึ่ง****
เครดิต คุณนายท้ายซอย

โดย: Phoenix Griffins

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หนังสือต้องอ่าน(ยังไม่ต้องห้าม):เทวาสายัณห์

ที่มา zenjournalist
หนังสือ“เทวาสายัณห์: มรณกรรมของประชาธิปไตยแบบไทย” (แปลจาก Thailand Unhinged: The Death of Thai-Style Democracy) เป็นหนังสือที่วิพากษ์การเมืองและความเป็นไปในสังคมไทยอย่างถึงแก่น

โดยเฉพาะในช่วงที่เมืองไทยตกอยู่ในภาวะวุ่นวาย
หลังจากการรัฐประหารขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร 

ผู้เขียนมองว่า วิกฤตการณ์การเมืองไทยที่เป็นมาอย่างต่อเนื่อง
สามารถอธิบายได้จากการศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ในช่วงเวลาหลังจากระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ถูกโค่นล้มไป 

ซึ่งจะพบว่าเต็มไปด้วยความพยายามอย่างเป็นระบบของพวกชนชั้นปกครอง
ที่ไม่ได้ มาจากการเลือกตั้ง ที่จะขัดขวางไม่ให้ประชาธิปไตยในเมืองไทยพัฒนาไปได้ 
เนื่องจากหวังจะกุมอำนาจไว้ในมือตน สถาบันการเมืองถูกบ่อนทำลาย 
ทำให้ไร้พลังอย่างต่อเนื่อง ความหวังหรือความพยายามใดๆของประชาชน
ที่จะได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริงก็ถูกปราบปรามตลอดเวลา

ในหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนมองว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2553
ซึ่งหลายอย่างเป็นโศกนาฏกรรม เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงมรณกรรมของ
“ประชาธิปไตยแบบไทย” ซึ่งเป็นระบอบการปกครองของประเทศมาได้ 50 ปีแล้ว 

แม้ระบอบการปกครองแบบนี้จะหยิบยืมเปลือกนอกบางอย่างของประชาธิปไตยมาใช้ 
แต่ก็สงวนสิทธิ์ในการบริหารประเทศให้อยู่ในมือ “คนดี” ที่มีชาติตระกูล 
มีสถานะทางสังคมสูงและมีฐานะร่ำรวย 

แต่ละบทในหนังสือเล่มนี้มีลีลาการเขียนที่ตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม 
และวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่ไว้หน้าใคร 

หนังสือเล่มนี้จึงเป็นงานเขียนที่แปลกออกไปจากปกติทั่วไป 
เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างงานเขียนทางวิชาการ
งานเขียนทางวารสารศาสตร์
และงานเขียนที่โจมตีความอยุติธรรม

และกระตุ้นให้เกิดความต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมในทางที่ดีขึ้น

สารบัญ: 

คำนำ 

1. รัฐประหารประชาธิปไตย 
2. ในนามของพ่อ..
3. เผด็จการผู้ใหญ่ 
4. ขายตัวขายชาติ 
5. แบบไทยโดยแท้ 
6. กบฏไพร่ 
7. พระเจ้าตายแล้ว


-อ่านฉบับย่อที่ zenjournalist
ดาวน์โหลดฉบับเต็มตามลิ้งค์
http://khikwai.com/blog/wp-content/uploads/TEWASAYAN.pdf

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ดาหน้ากันออกมาให้ครบทุกตัวคนเลย ไม่ต้องมัวเหนียมกันได้แล้วว้อย

http://www.internetfreedom.us/forum/viewtopic.php?f=2&t=2537
เอามาให้อ่านกันครับ จากคุณทวดเอง 
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/t ... 14630.html

ไม่ต้องค่อยๆออกมาทีละหน่วยอย่างนี้ ยุคนี้ ตอนนี้ไม่ต้องทำเป็นเหนียมแล้วว้อย ก็ดูอย่างพวกนี้สิวะ ไม่เห็นมีใครต้องอายเลย
 ออกหน้าออกตากันอย่างโจ่งแจ้ง

เริ่มจากแก้วสรรกันเลย ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ รับตำแหน่งในคณะรัฐประหาร ดำเนินคดีแบบสอบสวนเอง สืบพยานเอง สั่งฟ้องเองโดยไม่ต้องกลัวความผิด เพราะเขานิรโทษกรรมให้แล้ว จากนั้นก็ขอสมัครเป็นผู้ว่า กทม.ให้กับพรรค ปชป. แต่ทางโน้นไม่ให้ราคา ก็เลยอดลง แล้วก็มาพูดเรื่องหน้าข้าวหน้าเหล้า สุดท้ายตัวเองกลับออกมาฟ้องเสียเองแบบนี้ ข้าฯว่าตอนนี้เอ็งหมดราคาแล้วว่ะ ดังนั้นวันนี้ข้าฯของดวิจารณ์เอ็ง ไม่ใช่เพราะเอ็นดูเอ็งนะว้อย แต่สะอิดสะเอียนกับการกระทำของเอ็งเสียมากกว่า

ตามด้วยเจ้าตุลย์ คนนี้ข้าฯสงสัยเหลือเกินว่ะ ไม่รู้สอบเป็นหมอได้ยังไงฟะ สงสัยวงการแพทย์คงต้องสังคายนากันทั้งระบบได้แล้ว ไม่งั้นจะได้หมอแบบนี้หรือวะ แทนที่จะคิดช่วยเหลือชีวิตคน กลับส่งเสริมให้มีการทำลายชีวิตกัน แล้วตอนนี้ดันมาตั้งอะไรของเอ็งอีก เครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษคอร์รัปชั่นทักษิณ ทุด.. คนอย่างเอ็งเกิดมาเพื่อทำอะไรกันแน่ฟ่ะ ต่อต้านคนๆเดียว เพื่อทำให้ประเทศวุ่นวาย เอ็งทำ แต่การนิรโทษกรรมเพื่อให้ประเทศเกิดความปรองดอง เอ็งกลับคัดค้าน โถ เจ้าบ้าเอ๊ย รัฐบาลปัจจุบันมีปัญหาเรื่องทุจริตมากมาย เอ็งไม่เคยคิดมาต่อต้าน เอ็งจะต่อต้านก็แต่ทักษิณเพียงคนเดียว คืนเงินสี่หมื่นหกพันล้านของเขาเพื่อความสมานฉันท์ เอ็งก็ไม่ยอมอีก ทีสูญเสียรายได้จากการนำเข้าบุหรี่ 6 หมื่นกว่าล้าน ตอนนั้นปากเอ็งอมอะไรอยู่หรือวะ เอ็งถึงได้เงียบสนิทอย่างนั้น

 ข้าฯล่ะทุเรศเอ็งจริงๆเว้ย ขอบอก
กสม.ก็ออกมาได้จังหวะเหลือเกินนะ รัฐบาลปฏิบัติได้ถูกต้องทุกอย่าง ไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนแม้แต่น้อย เอ่อ งั้นก็คงเป็นเพราะพวกคนตายคนเจ็บเป็นพวกละเมิดล่ะสิ ใช่ไหมล่ะเจ๊อมรา พอสังคมออกมาวิพากษ์วิจารณ์ กันมาก เอ็งกลับแถออกไปว่าเป็นการตัดต่อ อึม หลักฐานที่ไม่เป็นคุณกับพวกเอ็งทีไร ใช้ คำว่า “ตัดต่อ”แค่นี้แหละก็จะเป็นอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างนั้นหรือวะ แล้วทำไมเอ็งไม่ยอมพูดซักทีล่ะเว้ย ว่าทำไมองค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลกเขาทั้งสอบทั้งสวนจนมีข้อมูลออกมาแล้วมากมาย แต่พวกเอ็งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุมากกว่าใครเขา จนป่านนี้ยังไม่เห็นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อย่างนี้ยังทนที่จะนั่งกันในตำแหน่งกันต่อไปอีกหรือวะ ช่างหน้าทนกันเสียจริง อย่าให้ข้าฯต้องคิดว่าความล่าช้า เพราะงบประมาณจัดซื้อรถ 4 คันให้ กสม.ของรัฐบาลชุดนี้ เป็น 4 คันที่อุดปากพวกเอ็งอยู่เลย เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ข้าฯก็รู้สึกสมเพชพวกเอ็งจริงๆด้วย
ต่อมาก็ สภาหอการค้า และสภาอุตฯออกมาคัดค้านเรื่องค่าแรง 300 บาท กลัวว่าบริษัทขนาดเล็กจะอยู่ไม่ได้ กลัวว่าจะมีกันโละคนงานออกอะไรเทือกนี้ โธ่เอ๊ย เขายังไม่ทันทำงานกันเลย พวกเอ็งก็มาคัดค้านดิสเครดิสกันตั่งแต่ไก่โห่เลยหรือวะ พวกเอ็งคิดหรือวะว่าคุณยิ่งลักษณ์จะทำงานด้วยปากเพียงอย่างเดียว พวกเอ็งคิดหรือวะว่า คุณยิ่งลักษณ์จะโล่ยโท่ยแบบเดียวกับอภิสิทธิ์ เฮ้อ ข้าฯละหน่ายกับพวกเอ็งเสียเหลือเกิน กลัวเรื่องโน้นกลัวเรื่องนี้ แต่พวกเอ็งกลับไม่เคยกลัวสักนิดเลยว่า แรงงานทั้งหมดเขากำลังจะอดตายกันอยู่แล้ว พวกเอ็งอยู่แต่กับพวกนายทุน พวกเอ็งจะรู้อะไรกับเงินสองร้อยกว่าบาทต่อวัน จะอยู่กันได้อย่างไร ข้าฯถามพวกเอ็งตรงๆเลยวะ ถ้าไม่มีแรงงานพวกนี้ แล้วบริษัทต่างๆ โรงงานต่างๆจะอยู่กันอย่างไรกันวะ ดังนั้นข้าฯอยากบอกพวกเอ็งว่า พวกเอ็งไม่ใช่ผู้วิเศษมาจากไหน อย่าบังอาจมาคิดแทนพวกเขาได้ไหมวะ ข้าฯจะบอกพวกเอ็งได้รับรู้เลยว่า พวกพ่อค้าจะอยู่ได้หรือไม่ได้อยู่ที่ขายของได้หรือไม่ต่างหากเล่า ถ้ารัฐบาลสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน แล้วกระตุ้นการบริโภคให้มากขึ้น ขอให้ขายของได้ ค่าแรงเท่าไรก็มีปัญญาจ่ายว้อย แต่มันจะไม่เป็นอย่างนั้นก็เพราะพวกเอ็งนี่แหละคอยทำลายความเชื่อมั่นอยู่เรื่อยๆแบบนี้ กระซิบถามพวกเอ็งสองคนว่า พวกเอ็งเป็นประธานได้เพราะอะไรกันวะ ตอบข้าฯเบาๆก็ได้ไม่ว่าจะเป็นการใช้เส้นหรือจับฉลากเข้ามา
 ข้าฯรับรองว่าข้าฯเชื่อพวกเอ็งว่ะ
โผล่มาอีกรายก็พวกเอ็นจิโอ ต่อต้านแมร่งไปเสียทุกเรื่องที่จะพัฒนาประเทศ อ้างแมร่งอย่างเดียวสภาพแวดล้อม ข้าฯอยากรู้จริงพวกเอ็นจิโออย่างพวกเอ็งทำอะไรบ้างวะที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม พวกเอ็งต่อต้านการสร้างเขื่อน แต่เวลาน้ำท่วม ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ข้าฯไม่เคยเห็นพวกเอ็งโผล่หัวให้ชาวบ้านเห็นแม้แต่เงา แม้แต่การรับบริจาคของประชาชนหรือภาครัฐ ข้าฯก็ไม่เคยเห็นเอ็นจิโออย่างพวกเอ็งร่วมบริจาคกับเขาด้วย พวกเอ็งนี่คอยติเพื่อทำลายโดยแท้ ข้าฯสงสัยว่าแล้วทำไมพวกเอ็งไม่ไปต่อต้านวะ ตอนที่จีนสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง หรือว่า การหาเรื่องกับพวกนั้น พวกเอ็งไม่มีปัญญา แต่เรื่องการสร้างเขื่อนของรัฐบาลใหม่ พวกเอ็งก็ออกมาอีกแระ พวกเอ็งห่วงแต่สภาพแวดล้อมในอนาคต แต่พวกเอ็งไม่เคยคิดห่วงเลยหรือไงวะ ถ้าต่อไปน้ำจะท่วมกรุงเทพ พวกเอ็งไม่รู้เลยหรือวะว่า ถ้าเกิดน้ำท่วมกรุงเมื่อไหร่ ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะมากมายเท่าไร แล้วเราจะปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น โดยไม่หาทางป้องกันอย่างนั้นหรือวะ เฮ้อ ข้าฯไม่รู้ว่าตัวเองมีเวรมีกรรมอะไรมากมายนัก จึงต้องมาร่วมประเทศกับพวกเอ็ง เซ็งว่ะ
ส่วนเจ้าจำลอง ขานี้เอาแน่อะไรไม่ได้ รู้แต่ว่าอดีตต้องการนายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง ทำให้คนไทยตายไปหลายสิบ วันนี้ต้องการนายกฯที่ไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง ทำให้ประชาชนตายไปเป็นร้อย ส่วนตัวเองดันไปโหวตโน แต่พอเขาได้รัฐบาล ดันจะให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ข้าฯไม่รู้จริงๆว่าสุดท้ายแล้วเอ็งต้องการอะไรกันแน่วะ หรือต้องการให้ประเทศย้อนกลับไปเหมือน 5 ปีที่ผ่านมา ประชาชนมีแต่ความเดือดร้อน ข้อสำคัญนะว้อยจำลอง ต่อให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะตามที่เอ็งต้องการ ก็คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งหรอกวะ เพราะประชาชนส่วนใหญ่เขาหูตาสว่างกันหมดแล้วเว้ย เอ็งควรจะหมดมุกได้แล้วมั่ง เพื่อประเทศจะได้เดินหน้าเสียที 
ชาวบ้านชาวช่องเขาเบื่อพวกเอ็งจะแย่อยู่แล้วว้อย
แล้วเจ้าไชยวัฒน์อีกคน สร้างปัญหามาตลอด ก่อกวนไปเสียทุกเรื่อง ตอนนี้เกิดฟิตอะไรอีกล่ะ ออกมาฟ้องยุบพรรคทั้ง 6 พรรค เพราะยังมาวุ่นวายกับการเมือง บ้าเอ๊ย มันก็ยุ่งอิรุงตุงนังกันมาตั้งนานแล้วเว้ย เอ็งไปมุดหัวอยู่ไหนกันวะ พึ่งจะมาสะดุ้งตอนที่เพื่อไทยชนะนี่นะ เฮ้อ หน้าข้าวหน้าเหล้าอย่างนี้ นักเลงเขาไม่ทำกันหรอกเว้ย เอ่อ สินะอย่างเอ็งมันไม่ใช่นักเลงนี่หว่า อย่างเก่งก็เป็นได้แค่พวกอีแอบ ที่อาศัยความวุ่นวายของสังคม แล้วก้าวสู่ตำแหน่งโดยไม่ต้องผ่านการเลือกตั้งใช่หรือเปล่าวะ ข้าฯสงสัยพฤติกรรมเอ็งจริงๆ ให้ฟ้าผ่าสิอ้าว
ส่วน กกต.ก็อีกแระ แขวนนายกฯหญิงที่ประชาชนส่วนใหญ่ตั้งความหวังไว้มากมาย ด้วยข้อหามีคนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองช่วยหาเสียง เป็นผลทำให้ได้เปรียบในเรื่องคะแนนเสียง โธ่เอ้ย มันหน่อมแน้มไปหรือเปล่าวะ 15 ล้านกว่าเสียงเชียวนะเอ็ง มันมากกว่า 12 ล้านกว่าเสียงเท่าไร พวกเอ็งหักลบถูกหรือเปล่าวะ ผลต่างกันอย่างนี้ ทางเหนือไม่กี่จังหวัดจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนายกฯได้หรือวะ โน่นแน่ะ ผลต่างระหว่างจำนวน ส.ส.เขตกับ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ต่างกันถึง 8 หมื่นกว่าใบ อันนี้ต่างหากเล่าเว้ย ที่ทำให้จำนวน ส.ส.เปลี่ยนแปลงกันได้ ถึงแม้ตอนหลังพวกเอ็งจะมาบอกว่า ความจริงต่างกันแค่ร้อยกว่าใบ ไม่ใช่คำชี้แจงที่จะลบความผิดพลาดได้หรอกเฟ้ย เพราะบางเขตชนะกันด้วยคะแนนเพียงไม่กี่ร้อย แล้วอย่างนี้พวกเอ็งกล้าพูดได้เต็มปากหรือว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พวกเอ็งทำให้ทุกๆคนได้รับความเที่ยงธรรมเท่าๆกัน ส่วนที่อ้างว่า ต้องทำตามกฎหมาย เมื่อมีคนร้องมา โธ่เอ๊ย ทุกพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง มีพรรคไหนกันเว้ยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง แล้วทำไมพึ่งจะมาฟ้องกันตอนนี้กันล่ะ ส่วนเรื่องแขวนเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงนี่ยิ่งเป็นเรื่องตลกกันใหญ่เลยเว้ย ก็ตอนสมัครดันไปบอกเขาว่ามีสิทธิ์ แต่พอได้รับเลือกเข้ามา ดันมาแขวนซะงั้น ข้าฯสรุปได้เลยว่า พวกเอ็งต่างหากที่ควรถูกแขวนว่ะ เพราะทำงานกันไม่เป็นสัปปะรดขลุ่ยกันแบบนี้
ยังมีอีกหรือเปล่าเว้ย ช่วยรีบๆออกมากันให้หมด เพื่อให้ประชาชนได้เห็นตัวตนที่แท้จริงเสียที ให้ประชาชนได้รับรู้ว่า ขณะที่ต่างชาติพากันแสดงความยินดีกับว่าที่นายกฯคนใหม่ ในขณะที่ดัชนีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี และในขณะที่ประชาชนกำลังมีความหวังกับรัฐบาลใหม่ ที่จะมากอบกู้ความแตกแยก กอบกู้เศรษฐกิจ และกอบกู้ปัญหาเรื่องปากท้องของชาวบ้าน แล้วพวกเอ็งก็พยายามมากวนน้ำให้ขุ่นแบบนี้ จะได้รู้กันเสียทีว่า 
พวกไหนกันวะที่เป็นตัวปัญหาของประเทศ 
จากคุณ : ทวดเอง 
เขียนได้สะใจจริงๆ ชอบมากครับ



ชัวร์ไม่ต้องกังวลแล้ว ไม่ใช่แขวนครับ แต่จะเป็น "สอย"พร้อมด้วยแกนนำเสื้แดง มันส่งหลานมันมาคุมอีกองค์กรนึงแล้ว คราวนี้ทั้งผัวทั้งเมียเปิดหน้าไพ่ลุยเต็มสูบแล้ว ทุกวง ทุกกระแสเหมือนกันหมดคือมันเปิดหน้าไพ่เล่นเองเลย เราละพร้อมเต็มที่หรือยัง วางแผนระยะสั้น ระยะยาว ไว้ให้ดีเตรียมใจไว้ เตรียมแผนการสู้ไว้ให้ดีว่าจะสู้ไปถึงจุดไหนแล้วอย่าเป๋อีกละ

คงเบื่อ ต้องมาจัด facility ต้อนรับ จับเลย จะได้ไม่มาอีก



ประเด็นที่ NewYork Times ลงไว้น่าสนใจมากๆ 

สอดคล้อง และขัดแย้งกับที่กระทรวงการต่าง​ประเทศเคยแถ- ลง
ตอบโต้ฟอร์บส์ มาก่อนว่า ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 
เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน มิใช่ทรัพย์สินส่วนพระองค์ 
ทรัพย์สินต่างๆ ไม่ใช่ของกษัตริย์ หากแต่เป็นของคนทั้งชาติ
กระทรวงการต่างประเทศแถ-ลง ว่า เครื่องลำที่โดนยึดเป็น
ทรัพย์สินส่วนพระองค์ อาจจะมีข้อดีในการแก้ตัว เอาหัวรอด
ในครั้งนี้ ให้เยอรมันปล่อยเครื่องเสี่ยออก​มาก่อน
แต่ในภาพรวม กระทรวงการต่างประเทศ ได้สร้างปัญหา
และข้อขัดแย้ง ที่คนแถ-ลง อาจซวยได้ในอนาคต ที่แถลง
อย่างนี้

- เยอรมัน ทราบดีว่า เครื่องบินลำดังกล่าว
จดทะเบียนในนามรัฐบาลไทยแน่นอน

- เครื่องบินลำดังกล่าว ซื้อโดยงบประมาณรัฐบาลแน่นอน
ใช้ภาษีประชาชน มีการตั้งงบประมาณซื้อโดยกองทัพ​อากาศ ชัดเจน
มันจะเป็นของส่วนพระองค์ได้อย่า​งไร

- เครื่องบิน ตกแต่งหรูหรา ไม่ใช่แบบที่ประชาชนใช้
ทำไมซื้อด้วยภาษี ให้คนคนเดียวพาเพื่อนเที่ยว
(เยอรมัน คงเบื่อ ต้องมาจัด facility ต้อนรับ จับเลย จะได้ไม่มาอีก)

พอเขาบอกว่า รวย ก็บอกว่า ไม่ใช่ของเรา ของประชาชน
พอเขาจับยึดไว้ ใช้หนี้ แผ่นดิน ดันบอกว่า เป็นของส่วนตัว
คิดว่า ถ้าเขากลับมาได้ ธานี กับกษิต หน้าบวมแน่
เพราะได้ แถ-ลง เอาไว้มาก สร้างความเสื่อมให้กับถาบันในระ​ยะยาว
อย่างแรง
ถ้ารัฐบาลถวาย ก็ต้องจดทะเบียนชื่อพระองค์ท่าน​เลย
หากยังจดทะเบียนชื่อ รัฐบาลไทย ก็ยังเป็นทรัพย์สินของประเทศอยู​่ดี
หรือว่า ท่านทำการทำงานใด ได้ดอกผล
แล้วซื้อต่อจากกองทัพอากาศเอาไว​้

ถ้าเป็นของส่วนตัว เวลาเสีย ซ่อมเองนะ ค่าน้ำมัน หัดเติมเองด้วย

ค่าจ้างนักบินผู้ช่วย พนักงานต้อนรับบนเครื่อง
ค่าอาหารที่ขนขึ้นไปกินกัน จ่ายเองนะ ไม่ต้องเอาภาษีเราไปจ่าย

ที่สำคัญค่าหลุมจอด (หลุมจอดนะไม่ใช่หลุมเจาะ) ที่ดอนเมือง
หรือสุวรรณภูมิ จ่ายเอง อย่าให้ใครต้องจ่ายให้นะโว๊ย
อ้ายกษิต อ้ายธานี

""""""""""""""""""" """"""""""""""""""" """""""""""""""""""
ทรัพย์สินส่วนพระองค์
ความหมาย

(กฎ) น. ทรัพย์สินที่เป็นของพระมหากษัตร​ิย์อยู่แล้ว
ก่อนเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ หรือทรัพย์สินที่รัฐทูลเกล้าฯ ถวาย
หรือทรัพย์สินที่ทรงได้มาไม่ว่า​ในทางใดและเวลาใด
นอกจากที่ทรงได้มาในฐานะที่ทรงเ​ป็นพระมหากษัตริย์
ทั้งนี้ รวมทั้งดอกผลที่เกิดจากบรรดาทรั​พย์สินเช่นว่านั้น.

""""""""""""""""""" """"""""""""""""""" """""""""""""""""""
ท่านธานี ทองภักดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถ-ลง
ชัดเจนว่า "เครื่องบินพระราชพาหนะ ลำดังกล่าว
เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ ของสมเด็จพระบรมฯ
ซึ่งท่านเป็นนักบิน ได้รับการฝึกบิน
และสามารถขับเครื่องบินพาณิชย์ไ​ด้ด้วยพระองค์เอง
รัฐบาลสหพันธรัฐเยอรมนี เข้าใจผิดว่าเป็นทรัพย์สินของรั​ฐบาลไทย
จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่ มันเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์
ของสมเด็จพระบรมฯ"

โฆษา สนามบินมิวนิค กล่าวว่า
"ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ใครเป็นเจ้าของเครื่องบินกันแน่​"

แต่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเยอ​รมัน กล่าวว่า
"ขออภัยในความไม่สะดวกที่ทำให้ท​่านคราวน์พรินซ์
ต้องเกิดความไม่สบายใจในระหว่าง​อยู่เยอมนี
แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศ ไม่สามารถให้ความเห็นได้ในชั้นน​ี้
เนื่องจากเรื่องอยู่ในอำนาจศาล
เราไม่ก้าวก่ายกระบวนการยุติธรร​มของประเทศ "

แถม อีกนิด เครื่องบินดังกล่าว มีแค่ 36 ที่นั่ง ไม่ใช่ 189 ที่นั่ง
อย่างที่เครื่องบินพาณิชย์ ควรจะมี แสดงว่า เป็นลักษณะของ
เครื่องบินส่วนตัวโดยแท้จริง ราคา 5-6 ล้าน
$ ยังไม่คุ้มกับมูลหนี้เลย

""""""""""""""""""" """""""""""""""""""
22 สิงหาคม 2551

ตามที่ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2551 นิตยสาร Forbes
ได้เผยแพร่บทความพิเศษเกี่ยวกับ​พระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวย
ที่สุดในโลก ประจำปี พ.ศ. 2551 และได้จัดให้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอ​ยู่ในลำดับแรก
ของพระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่ส​ุด นั้น

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษั​ตริย์ ได้ชี้แจงว่า
บทความดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อ​นจากข้อเท็จจริง
เนื่องจากว่า ทรัพย์สินที่บทความนำมาประเมินน​ั้น
ในความเป็นจริง มิใช่ทรัพย์สินส่วนพระองค์ แต่เป็นของแผ่นดิน
ซึ่งเป็นไปในทำนองเดียวกันกับพร​ะมหากษัตริย์ในประเทศอื่น
ที่บทความเดียวกันนี้ไม่ได้จัดอ
​ันดับฐานะความร่ำรวย 
เพราะทรัพย์สินต่างๆ ไม่ใช่ของกษัตริย์ หากแต่เป็นของคนทั้งชาติ
Phoenix Griffins geschrieben

ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4)

คาดว่าข่าวตอนนี้ ที่กำลังดังอยู่ทั่วโลก ยกเว้นตอแหลแลนด์ (เพราะสื่อไหนกล้าลงข่าวนี้ในตอแหลแลนด์ก็เตรียมตัวไปทัวร์ ค้างคืน รวมที่พักและอาหาร 15 ปี กับอีก 14 ปี 364 คืน ที่ฮ่องกรง หรือ คุก กันยกโรงพิมพ์ได้เลย) คือข่าวว่าทางการเยอรมัน ได้สั่งยึดเครื่องบินประจำตัว ของ เอดส์ หลังจาก เอดส์ ใช้เครื่องบินลำนี้ ลงจอดที่สนามบินที่เยอรมนี เพื่อเข้ารับการถ่ายเลือด ที่เอดส์วิลล่า ณ มิวนิก (รายละเอียดเชิญอ่าน ลิเก สตอรี่ ตอน 3) การยึดเครื่องบินลำนี้ จะทำให้เอดส์โกรธขนาดไหน อันนี้ข้าพเจ้าไม่รู้ แต่ถ้าอีก 2-3 เดือน มีคำสั่งปลดใครในกองทัพอากาศตอแหลแลนด์ ก็น่าจะ ซ.ต.พ. กันได้นะว่าคำสั่งใคร แต่เราอย่าไปสนใจแค่อารมณ์แปรปรวนของคนโรคจิตติดเอดส์คนเดียวเลย เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
เมื่อ 20 กว่าปีก่อน รัฐบาลตอแหลแลนด์ เปิดประมูลสร้างทางด่วน ดอนไม่เมืองโทลล์เวย์ เพื่อใช้สำหรับเดินทางไปยัง สนามบินดอนไม่เมือง ท่าอากาศยานประจำเมืองกรุงลิเก เมืองหลวงแห่ง ราชลิเกอาณาจักรตอแหลแลนด์ (Li-Kay King State of Torlaeland) ก็ได้เรียกบริษัท Dywidag มาสร้างทางด่วนให้ แต่ว่าก็จ่ายเงินให้ไม่ครบ ขาดไป เทียบเป็นเงินมูลค่า 30 ล้าน ยูโร ทวงเท่าไหร่ก็ไม่จ่าย จะไม่จ่ายด้วยเหตุผลอะไร ก็ไม่มีใครรู้ได้
บริษัท Dywidag ก็พยายามทวงหนี้อยู่เรื่อยๆ แต่รัฐบาลตอแหลแลนด์คณะใหม่มา ก็คงเห็นว่า เรื่องอะไรตูจะต้องไปใช้หนี้ที่พวกตูไม่ได้ก่อ ก็เลยทำไม่รู้ไม่ชี้ตลอดมา จนถึงปี 2001 บริษัท Dywidag ก็ขายธุรกิจให้บริษัท Walter Bau ซึ่งไม่นานมานี้ บริษัท Walter Bau ก็เจ๊งบ๊ง ขนาดเอาเจ้าของบริษัทไปขายให้บาร์เกย์ เพื่อขายถั่วดำใช้หนี้แล้ว ก็ยังมีหนี้อีกมากมาย ไม่พอจะไปจ่ายให้เจ้าหนี้
ฉนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ (liquidator) จึงมาดูในบัญชีว่าบริษัทนี้มีลูกหนี้ที่ยังค้างเงินไม่จ่ายอยู่รึเปล่า เผื่อจะได้ตามไปทวง จะได้มีเงินจ่ายเจ้าหนี้ ก็เลยเจอว่า รัฐบาลตอแหลแลนด์ ยังติดเงินบริษัท Dywidag (ซึ่งภายหลัง Walter Bau ซื้อกิจการไป ฉนั้นหนี้ของ Dywidag ก็น่าจะกลายเป็นของ Walter Bau ถ้าตอนขายกิจการมีการตกลงเรื่องนี้เอาไว้) อยู่ 30 ล้านยูโร จึงทวงรัฐบาลตอแหลแลนด์ให้จ่ายคืนมา ซึ่งแน่นอนว่า รัฐบาลตอแหลแลนด์ ย่อมต้องหน้าด้านไม่ยอมจ่ายคืน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะว่าสิ่งที่หน้าด้านกว่านี้ พวกอำมาตย์ตอแหลแลนด์ยังเคยทำมาแล้ว ฉนั้น กะอีแค่เบี้ยวหนี้ฝรั่ง ทำไมจะไม่กล้าทำ
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเยอรมนี จึงนำเรื่องขึ้นศาล ขออนุญาติศาล เพื่อยึดทรัพย์สินของรัฐบาลตอแหลแลนด์ ที่ตนเองสามารถยึดได้ เพื่อมาใช้หนี้จำนวนนี้ ซึ่งในเมื่อหลักฐานชัดเจนว่ารัฐบาลตอแหลแลนด์ ยังไม่ได้จ่ายหนี้ ศาลก็ย่อมอนุญาติ แต่ว่าปัญหาคือจะยึดอะไรได้ล่ะ? เครื่องบินของการบินตาย งั้นเหรอ? ก็ยึดไม่ได้ เพราะว่าการบินตาย นั้น ถึงแม้รัฐบาลตอแหลแลนด์ จะถือหุ้นส่วนใหญ่อยู่ แต่ก็มีการขายหุ้นให้เอกชนถือหุ้นได้นิดๆ หน่อยๆ แต่มันก็ทำให้ การบินตาย กลายเป็น บริษัท ของ มหาชน ไม่ใช่ของรัฐบาล ฉนั้น จะไปยึดเครื่องบินการบินตาย เวลาบินลง ก็ทำไม่ได้
ธรรมดา เอดส์ เวลามาเยอรมนี ก็นั่งเฟิร์สคลาส การบินตาย มานะ ซึ่งเวลาพี่แกบินไปบินกลับทีนึง จะเอาของไปๆ มาๆ เป็นตันๆ เลย แน่นอนพี่แกไม่เคยควักกระเป๋าจ่ายค่าปรับที่น้ำหนักเกิน และการบินตาย ก็ไม่เคยกล้าทวง เพราะถ้าทวงเมื่อไหร่ คนทวงก็เตรียมตัวไปหางานใหม่ได้ ถ้าโชคดี หรือถ้าโชคร้าย ก็โดนแปรสภาพเป็น ปุ๋ยอินทรีย์แน่ๆ แถม ในเคบิน เฟิร์สคลาส เวลาเอดส์เดินทาง ห้ามมีผู้โดยสารอื่นๆ ที่พี่แกไม่ต้องการ ฉนั้น ถ้าพี่แกไม่อยากให้ใครขึ้นเครื่องร่วมเคบินกับพี่แก ผู้โดยสารคนนั้นก็ไปนอนแอร์พอร์ตโฮเต็ล แล้วเดินทางวันรุ่งขึ้นเอาละกัน (แน่นอนการบินตายต้องจ่ายค่าห้องให้ผู้โดยสารพวกนั้น) แถม อำมาตย์ 3 ราย คือขันทีเฒ่ากาลี อ่านั้น ปันยาชุนชุน และ หมดสิทธิ์ เศวตกะลา ก็เคยบอกทูตอเมริกา ว่าส่งใครไปเป็นทูตประจำที่เยอรมนีทีไรมีปัญหาทุกที ต้องขอย้ายประเทศกันแทบไม่ทันอยู่บ่อยๆ เพราะว่าถ้าเอดส์ จะเดินทางมาเยอรมนีเมื่อไหร่ ทูตจะต้องเสียเวลาทำงาน เดินทางจาก เบอร์ลิน ไป มิวนิก เพื่อไปต้อนรับเอดส์ ทำให้งานไม่เดิน
แต่เราพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อนละกัน เอาเป็นว่า ก็แค่รู้ว่า ธรรมดา เอดส์จะนั่งการบินตาย ไปกลับเยอรมนี แต่คราวนี้ไม่รู้คิดยังไง นั่งเครื่องบินประจำตัว ที่ตั้งชื่อตามลูกตัวเองว่า “ปังปอนด์” ไปเยอรมนี ทีนี้ เครื่องบินลำนี้นี่ เจ้าของคือ กองทัพอากาศตอแหลแลนด์ ซึ่ง เป็นหน่วยงานราชการของรัฐบาลตอแหลแลนด์ ฉนั้น เจ้าของเครื่องบินลำนี้ตามกฏหมาย ก็คือ รัฐบาลตอแหลแลนด์ นั่นเอง
ฉนั้น เมื่อมีกำหนดการว่า เครื่อง “ปังปอนด์” จะลงที่เยอรมนี เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ลิงโลด ม๊ากเค่อะ เพราะว่าโอกาสจะยึดสมบัติรัฐบาลตอแหลแลนด์ มาถึงแล้ว จึงทำยื่นเรื่องต่อศาลขออนุญาติยึดเครื่องบินลำนี้ทันที แน่นอนว่า ศาลอนุญาติ ฉนั้น เมื่อเครื่องบินของเอดส์ ลงถึงเยอรมนี ก็โดนเจ้าหนี้ยึดไปขายเลหลัง เอาเงินโลด
เอดส์ จะอยู่บนเครื่อง ตอนโดนยึดรึเปล่า ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ได้ แต่ถ้าอยู่ด้วยก็คงยิ่งมันส์ เพราะพี่แกจะต้องแค้นสุดๆ กลับตอแหลแลนด์ เมื่อไหร่ นายก หมี โดนเอดส์ลากคอมาจับตบกะโหลกคว่ำคาตีน อย่างแน่นอน
ทางการตอแหลแลนด์ รู้ข่าว ก็ต้องเต้นเป็นธรรมดา เพราะว่ายึดอะไรไม่ยึด มายึดเครื่องบินประจำตัวของเอดส์ เดี๋ยวเอดส์โมโหขึ้นมา ก็เจอคำสั่งโดนแปรสภาพ กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ (หรือกลายเป็น ศพ น่ะแหละ) กันไปตามๆ กัน ทางการ จึงส่ง กุ๊ย รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศตอแหลแลนด์ หนึ่งในคณะผู้ก่อการร้าย ในคณะ พันธมารเพื่ออำมาตยาธิปไตย ในพระบรมราชินีโรงลิเกอุปถัมภ์ ผู้รับคำสั่งจาก วาฬ ในการ ยึดสนามบิน นรกภูมิ เมื่อ 3 ปีก่อน ไปเจรจาให้คืนเครื่องบินมาให้เอดส์ เพื่อไม่ให้พวกของตัวเอง โดนเอดส์ สั่งลูกน้องมายำตีน กันยกกรม
ผลสำเร็จของการเจรจา ถ้าพูดเรื่อง ในแง่เหตุผล ทฤษฏี แล้ว กุ๊ย แพ้ลุ่ยแน่ๆ เพราะว่า กุ๊ย ให้ข่าวรอยเตอร์ ไปว่า เครื่องบินลำนี้ ไม่ใช่เครื่องบิน ของรัฐบาลตอแหลแลนด์ มันเป็นเครื่องบินของเอดส์ เพราะรัฐบาล โอนให้เอดส์ แล้ว และศาลเยอรมนี ก็หูเบา เชื่อหลักฐาน ปลอม ของโจทก์ เลยตัดสินคดีออกมาผิดๆ
แต่ตามหลักฐานใน airfleets.com เว็ปไซท์ที่มีการบันทึกเอาไว้หมดว่า เครื่องบินในโลกนี้ ใครเป็นเจ้าของบ้าง บันทึกเอาไว้ชัดเจน ว่า เจ้าของ เครื่อง “ปังปอนด์” คือ กองทัพอากาศตอแหลแลนด์ ไม่เคยมีหลักฐานว่าเคยมีการโอนเครื่องลำนี้ ให้เอดส์ แต่อย่างใด
แต่จริงๆ แล้ว หากจะมีการโอนให้เอดส์แล้ว ทางการเยอรมนี ก็มีสิทธิ์ยึดเครื่องบินลำนี้อยู่ดี เพราะว่า ตามกฏหมาย เจ้าหนี้ มีสิทธิ์ที่จะยึดทรัพย์สิน ที่ลูกหนี้ มอบให้ผู้อื่นฟรีๆ หรือไม่ก็ขายให้ผู้อื่นในราคาที่ถูกกว่าราคาจริงของสินค้ามากๆ มาเป็นของตัวเอง เพราะว่า ส่วนใหญ่แล้ว พวกลูกหนี้ที่ทำแบบนี้ เป็นพวกที่อยากเบี้ยวหนี้ แต่ว่ากลัวโดนยึดทรัพย์ ถ้าเบี้ยว เลยแกล้งทำเป็นทำเรื่องยกทรัพย์สินของตัวเองให้คนอื่นไปฟรีๆ เพื่อว่า เจ้าหนี้ จะได้มายึดทรัพย์สินชิ้นนั้น ไม่ได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้ เมืองฝรั่ง เขาตัดสินกันในศาล มาเป็นร้อยๆ ปี แล้วว่า การโอนทรัพย์สินย่อมต้องเป็นโมฆะ เพราะก่อนที่คุณ จะสามารถให้อะไรใครได้ คุณต้องเป็นเจ้าของ ของสิ่งนั้นซะก่อน ถ้าคุณยังเป็นหนี้เขาอยู่ ของชิ้นนั้น ก็ไม่ใช่ของคุณ คุณต้องใช้หนี้ให้หมดก่อน คุณถึงจะให้ของชิ้นนั้นกับคนอื่นได้

ฉนั้น การที่ กุ๊ย พูดอะไรโง่ๆ ออกมาแบบนั้น ก็มีความเป็นไปได้ 2 อย่าง อย่างแรกคือ กุ๊ย จงใจจะตอแหลหน้าด้านๆ เพื่อรักษาหน้าประเทศตอแหลแลนด์ แต่ถ้าทำแบบนั้น กุ๊ย มีสิทธิ์หน้าแตกได้ เพราะว่าเยอรมนีไม่ใช่ตอแหลแลนด์ หากว่าไปตอแหลหน้าด้านๆ แล้วเขาพิสูจน์ได้ว่าตอแหล คราวนี้ กุ๊ย จะโดนโจทก์ ฟ้องกลับ ว่าหมิ่นประมาทเขา ไปหาว่าเขาใช้หลักฐานปลอม ทำให้เขาเสียชื่อเสียง และแน่นอนว่า ศาลเยอรมนีนั้น อำมาตย์ตอแหลแลนด์สั่งไม่ได้ ไม่มีทางตัดสินให้ กุ๊ย ไม่แพ้ได้ ถ้ากุ๊ย ตอแหลออกมาจริงๆ
ความเป็นไปได้ ที่ 2 ก็คือ กุ๊ย โง่ซะจนไม่รู้ว่า การยกของอะไรให้คนอื่นฟรีๆ โดยที่ยังไม่ได้ใช้หนี้เจ้าหนี้นั้น การโอนครั้งนั้นจะเป็นโมฆะทันที สำหรับข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าคิดว่า กุ๊ย นั่น คงจะตอแหลหน้าด้านๆ มากกว่า เพราะ กุ๊ย เอง ก็ตอแหลตอหลดอยู่ทุกวี่วันในตอแหลแลนด์ แต่ว่าที่ยังไม่เคยเป็นอะไรเพราะศาลตอแหลแลนด์นั้น ผู้พิพากษาแต่ละตัวก็สุนัขรับใช้ของ วาฬ ทั้งนั้น ฉนั้น เมื่อกุ๊ย ก็เป็นสุนัขรับใช้ของ วาฬ เช่นกัน ก็ไม่ต้องกลัวว่าขึ้นศาลในตอแหลแลนด์ แล้วจะแพ้ กุ๊ย เลยลืมไป เอานิสัยตอแหลหน้าด้านไปใช้ที่เมืองนอก ซึ่งคราวนี้ ไปกล่าวหาเขาว่าตอแหล เรามาคอยดูกันดีกว่า ว่า เขาจะฟ้องร้อง กุ๊ย หรือไม่ ถ้าฟ้อง อย่าหวังว่า วาฬ จะสั่งศาลเยอรมนีได้ หากเขาเรียกร้องค่าเสียหายมากๆ กุ๊ย ไม่มีจ่าย เรามาดูกันดีกว่า ว่าศาล จะสั่งให้ กุ๊ย ไปหาเงินมาจ่ายอย่างไร สำหรับข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าว่า สั่งให้มันไปทำงานในสำนักนางโลม ขายตูดใช้หนี้ท่าจะดี และถ้าจะให้ดีกว่านั้น สำนักนั้นควรมีแมงดาโหดๆ คุมอยู่ด้วย ถ้า กุ๊ย งอแง ไม่ยอมขายตูด ก็จะโดนพวกแมงดาโหด รุมจับมัดแล้วดีดหำให้หน้าเขียวชักตาตั้งไปเลย คงจะมันส์น่าดู
ติดตามชม ลิเก สตอรี่ Episode 5 เร็วๆ นี้ นะฮ่ะ

ลิเก สตอรี่ ตอน 3 (Li-Kay Story Episode 3)

ข้าพเจ้านั้นเห็นคนถามกันเยอะ ว่าทำไมข้าพเจ้าถึงเรียก เอดส์ ว่า เอดส์? เอดส์ เป็นเอดส์จริงหรือเปล่า? ตามข้อมูลวิกิลีกส์ ก็ไม่ได้ฟันธงว่าจริงนะ แต่ว่านาย Eric John ทูตของอเมริกาก็บอกว่าจะต้องเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่มีทางรักษาหายแน่นอน และต้องเป็นโรคที่ต้องถ่ายเลือดเป็นประจำ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้อยู่ 2 โรค คือ เอดส์ หรือไม่ก็ Hepatitis C

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทูตอเมริกามั่นใจว่า เอดส์ ต้องเป็นโรคพวกนี้ เพราะว่าวิลล่าที่มิวนิก เยอรมนี ที่เอดส์ไปซื้อไว้ เพื่ออยู่กับ นุ้ย และ FF หมาตัวโปรด นั้น เป็น Medicinal Spa นั่นก็หมายความว่าเป็นวิลล่าสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งวิลล่านี้ เป็นวิลล่าสปา ที่มีนางพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แน่นอนว่าราคาย่อมต้องแพงมาก ซึ่งตามข้อมูลนั้นวิลล่าเพียงหลังเดียว ราคาสูงถึง 9 ล้านยูโรเลยทีเดียว ทูตอเมริกาเลยมั่นใจว่าต้องเป็นโรคเรื้อรัง ที่ต้องมีนางพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิดแน่นอน เพราะว่าเราก็รู้ๆ กันอยู่ว่า เอดส์น่ะ เงินไม่ค่อยพอใช้ เพราะว่านายลวงโลก สั่งตัดงบ ไม่ให้ใช้เงินมาก แล้วถ้าเงินไม่พอใช้อยู่แล้ว เรื่องอะไรจะต้องเอาเงินตั้ง 9 ล้านยูโร ไปซื้อกะอีแค่บ้านหลังเดียว จะซื้อบ้านนั้นเพื่อหวังจะเคลมนางพยาบาลฝรั่งเหรอ? ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ นางพยาบาลเมืองฝรั่งนั้น เอดส์จะไปลากมาเคลมตามใจชอบไม่ได้แน่ ขืนทำป่านนี้มีเรื่องมีราว เป็นข่าวดังเล็ดรอดเข้ามาที่ตอแหลแลนด์ ลือกันไปทั่วแล้ว ถึงแม้สื่อในประเทศนี้จะไม่กล้ารายงานก็เหอะ 

แถมข้าพเจ้าว่าส่วนใหญ่ นางพยาบาลในวิลล่านั้น คงจะหาสวยๆ เอ๊าะๆ ยาก น่าจะมีแต่อีแก่เหนียงยานรุ่นผ่านสงครามโลกแล้วเป็นส่วนใหญ่ ให้เอาถุงก๊อบแก๊บคลุมหัวก่อนจะทำสลีปปิ้งบิวตี้ ยังขอคิดดูก่อนเลย ฉนั้น ถ้าใครจะมาแย้งว่า เอดส์ อาจจะไปซื้อวิลล่า เพราะว่าอยากเปิดฮาเร็มนางพยาบาล อันนี้ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยแน่นอนตามเหตุผลที่กล่าวมา ต้องมีโรคเรื้อรังร้ายแรงที่รักษาในตอแหลแลนด์ไม่ได้แน่นอน เพราะถ้าให้หมอในตอแหลแลนด์ตรวจอาการเมื่อไหร่ วันเดียวข่าวก็แพร่ไปทั่วโรงบาลอยู่แล้วว่า เอดส์ เป็นโรคอะไร และวันรุ่งขึ้น ข่าวก็ต้องแพร่ไปทั่วประเทศ เพราะถ้าเอดส์ ให้หมอที่ตอแหลแลนด์รักษาโรคร้าย มีเหรอที่หมอ พยาบาล จะไม่เอาไปกระซิบต่อว่าเอดส์เป็นโรคอะไร และแค่วันเดียวแหละ ฟันธง ว่าดังกระฉ่อนไปทั่วประเทศแน่ๆ และคงต้องมีการเปลี่ยนหมอและพยาบาลบ่อยๆ เพราะหมอกับพยาบาลชุดที่แพร่ข่าวซุบซิบ ย่อมต้องโดนสั่งให้โดนแปรสภาพเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ยกชุดอยู่เนืองๆ ฉนั้น เอดส์ จะต้องเป็นโรคเรื้อรังร้ายแรง และที่ต้องรักษาที่เมืองนอก เพราะไม่ต้องการให้หมอตอแหลแลนด์ได้รู้ ว่าเป็นโรคอะไร ... 

ฉนั้น เมื่อเรารู้แน่แล้วว่า เอดส์ ต้องเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องถ่ายเลือดประจำ 1 ใน 2 โรคนี้ แล้วเอดส์เป็นโรคไหนกันแน่? สำหรับข้าพเจ้า ฟันธงว่าเอดส์ใสๆ เพราะว่าโรค Hepatitis C นั้น เป็นโรคที่ติดต่อจากการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ใช้แปรงสีฟันร่วมกัน ใช้มีดโกนร่วมกัน คำถามคือ หน้าอย่างเอดส์น่ะเหรอ จะไปแชร์แปรงสีฟัน หรือแชร์มีดโกนกับใคร หรือว่าหมอที่ไหนจะกล้าเอาเข็มฉีดยาที่ฉีดคนอื่นแล้ว ไปฉีดเอดส์? เป็นไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าเรื่องไปเย๊สไม่เลือก แล้วติดเอดส์น่ะ ความเป็นไปได้สูงกว่าเยอะ เพราะเอดส์นั้น ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า บ้าฮีขนาดหนัก ขนาดที่ว่าถ้าอยากจะเย๊สใครในตอแหลแลนด์ กระซิบหูลูกสมุนทีเดียว ลูกสมุนก็จะไปฉุดกระชากลากถูผู้หญิงคนนั้นมาให้เอดส์ฟันจนถึงเขียง ในทันที ขนาด ปุ๊ย ปอนติ๊บ หลังจากได้เป็นนางงามจักรวาล กลับมาตอแหลแลนด์ เจอเอดส์สั่งเข้าไปถวายงานถึงแท่นปัจถรณ์ สมุนออกมาไล่ล่าไปขึ้นเขียง ปุ๊ย ยังต้องรีบหนีออกนอกตอแหลแลนด์บินกลับอเมริกาแทบไม่ทัน ฉนั้น ข้าพเจ้าว่าระหว่าง Hepatitis C ที่ติดจากการแชร์มีดโกน กับ เอดส์ ที่ติดจากการที่เอดส์ ปี้ไม่เลือกหน้า ความเป็นไปได้ว่าจะเป็น Hepatitis C มีไม่ถึง 0.01% สรุป พ่อก็เป็นง่อย ผสม พาร์กินสัน ลูกชายก็เป็นเอดส์ หลานชายก็ปัญญาอ่อน อนาคตของคณะลิเกลวงโลกตอแหลนี้น่าจะฉิบหายในไม่ช้าอย่างแน่นอน มารอดูความพินาศฉิบหายของคณะลิเกอัปรีย์จัญไรกันดีกว่าพวกเรา 

ติดตามชม ลิเก สตอรี่ Episode 4 เร็วๆ นี้ นะฮ่ะ

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

‪ลากคอ..มาร์ค..ขึ้นศาลโลก ICC‬‏.

สงสัยมันคิดว่าคนไทยลืมง่าย
จึงออกมาเห่าเป็นระยะ ระยะ..
ลั่นเป็นเสียงแรกสกัดรบ.ถ้าทำผิด
จะตรวจสอบรัฐบาลนายกหญิง ยิ่งลักษณ์
ตัวเองยังมีชนักติดหลังอีกมากมาย..
ไอ้ เควี่ย.......

เรื่องสั่งฆ่าคนเสื้อแดงที่ไปประท้วงมือเปล่า
93 ศพ บาทเจ็บอีกเกือบ 3000 คน
และที่หายไปอีกเป็นพัน....
จนป่านนี้ก็ยังไม่ทราบว่าหายไปไหน

แล้วเงินกู้ 1.49 ล้าน ล้าน
รัฐบาลเพื่อไทย ต้องตรวจสอบ...ว่ามันเอาเงินไปไหน
คนไทยจึงต้องเป็นหนี้กันคนละ 7 หมื่นบาท
ไม่เว้นแม้แต่เด็กอ่อน......