Freigegeben Surachai sofort und ohne Bedingungen.

The law is silent @ the time of war.Liberate Thailand to Frees.‎Our real enemy is monarchy system.

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ลิเก สตอรี่ ตอน 3 (Li-Kay Story Episode 3)

ข้าพเจ้านั้นเห็นคนถามกันเยอะ ว่าทำไมข้าพเจ้าถึงเรียก เอดส์ ว่า เอดส์? เอดส์ เป็นเอดส์จริงหรือเปล่า? ตามข้อมูลวิกิลีกส์ ก็ไม่ได้ฟันธงว่าจริงนะ แต่ว่านาย Eric John ทูตของอเมริกาก็บอกว่าจะต้องเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่มีทางรักษาหายแน่นอน และต้องเป็นโรคที่ต้องถ่ายเลือดเป็นประจำ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้อยู่ 2 โรค คือ เอดส์ หรือไม่ก็ Hepatitis C

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทูตอเมริกามั่นใจว่า เอดส์ ต้องเป็นโรคพวกนี้ เพราะว่าวิลล่าที่มิวนิก เยอรมนี ที่เอดส์ไปซื้อไว้ เพื่ออยู่กับ นุ้ย และ FF หมาตัวโปรด นั้น เป็น Medicinal Spa นั่นก็หมายความว่าเป็นวิลล่าสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งวิลล่านี้ เป็นวิลล่าสปา ที่มีนางพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แน่นอนว่าราคาย่อมต้องแพงมาก ซึ่งตามข้อมูลนั้นวิลล่าเพียงหลังเดียว ราคาสูงถึง 9 ล้านยูโรเลยทีเดียว ทูตอเมริกาเลยมั่นใจว่าต้องเป็นโรคเรื้อรัง ที่ต้องมีนางพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิดแน่นอน เพราะว่าเราก็รู้ๆ กันอยู่ว่า เอดส์น่ะ เงินไม่ค่อยพอใช้ เพราะว่านายลวงโลก สั่งตัดงบ ไม่ให้ใช้เงินมาก แล้วถ้าเงินไม่พอใช้อยู่แล้ว เรื่องอะไรจะต้องเอาเงินตั้ง 9 ล้านยูโร ไปซื้อกะอีแค่บ้านหลังเดียว จะซื้อบ้านนั้นเพื่อหวังจะเคลมนางพยาบาลฝรั่งเหรอ? ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ นางพยาบาลเมืองฝรั่งนั้น เอดส์จะไปลากมาเคลมตามใจชอบไม่ได้แน่ ขืนทำป่านนี้มีเรื่องมีราว เป็นข่าวดังเล็ดรอดเข้ามาที่ตอแหลแลนด์ ลือกันไปทั่วแล้ว ถึงแม้สื่อในประเทศนี้จะไม่กล้ารายงานก็เหอะ 

แถมข้าพเจ้าว่าส่วนใหญ่ นางพยาบาลในวิลล่านั้น คงจะหาสวยๆ เอ๊าะๆ ยาก น่าจะมีแต่อีแก่เหนียงยานรุ่นผ่านสงครามโลกแล้วเป็นส่วนใหญ่ ให้เอาถุงก๊อบแก๊บคลุมหัวก่อนจะทำสลีปปิ้งบิวตี้ ยังขอคิดดูก่อนเลย ฉนั้น ถ้าใครจะมาแย้งว่า เอดส์ อาจจะไปซื้อวิลล่า เพราะว่าอยากเปิดฮาเร็มนางพยาบาล อันนี้ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยแน่นอนตามเหตุผลที่กล่าวมา ต้องมีโรคเรื้อรังร้ายแรงที่รักษาในตอแหลแลนด์ไม่ได้แน่นอน เพราะถ้าให้หมอในตอแหลแลนด์ตรวจอาการเมื่อไหร่ วันเดียวข่าวก็แพร่ไปทั่วโรงบาลอยู่แล้วว่า เอดส์ เป็นโรคอะไร และวันรุ่งขึ้น ข่าวก็ต้องแพร่ไปทั่วประเทศ เพราะถ้าเอดส์ ให้หมอที่ตอแหลแลนด์รักษาโรคร้าย มีเหรอที่หมอ พยาบาล จะไม่เอาไปกระซิบต่อว่าเอดส์เป็นโรคอะไร และแค่วันเดียวแหละ ฟันธง ว่าดังกระฉ่อนไปทั่วประเทศแน่ๆ และคงต้องมีการเปลี่ยนหมอและพยาบาลบ่อยๆ เพราะหมอกับพยาบาลชุดที่แพร่ข่าวซุบซิบ ย่อมต้องโดนสั่งให้โดนแปรสภาพเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ยกชุดอยู่เนืองๆ ฉนั้น เอดส์ จะต้องเป็นโรคเรื้อรังร้ายแรง และที่ต้องรักษาที่เมืองนอก เพราะไม่ต้องการให้หมอตอแหลแลนด์ได้รู้ ว่าเป็นโรคอะไร ... 

ฉนั้น เมื่อเรารู้แน่แล้วว่า เอดส์ ต้องเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องถ่ายเลือดประจำ 1 ใน 2 โรคนี้ แล้วเอดส์เป็นโรคไหนกันแน่? สำหรับข้าพเจ้า ฟันธงว่าเอดส์ใสๆ เพราะว่าโรค Hepatitis C นั้น เป็นโรคที่ติดต่อจากการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ใช้แปรงสีฟันร่วมกัน ใช้มีดโกนร่วมกัน คำถามคือ หน้าอย่างเอดส์น่ะเหรอ จะไปแชร์แปรงสีฟัน หรือแชร์มีดโกนกับใคร หรือว่าหมอที่ไหนจะกล้าเอาเข็มฉีดยาที่ฉีดคนอื่นแล้ว ไปฉีดเอดส์? เป็นไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าเรื่องไปเย๊สไม่เลือก แล้วติดเอดส์น่ะ ความเป็นไปได้สูงกว่าเยอะ เพราะเอดส์นั้น ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า บ้าฮีขนาดหนัก ขนาดที่ว่าถ้าอยากจะเย๊สใครในตอแหลแลนด์ กระซิบหูลูกสมุนทีเดียว ลูกสมุนก็จะไปฉุดกระชากลากถูผู้หญิงคนนั้นมาให้เอดส์ฟันจนถึงเขียง ในทันที ขนาด ปุ๊ย ปอนติ๊บ หลังจากได้เป็นนางงามจักรวาล กลับมาตอแหลแลนด์ เจอเอดส์สั่งเข้าไปถวายงานถึงแท่นปัจถรณ์ สมุนออกมาไล่ล่าไปขึ้นเขียง ปุ๊ย ยังต้องรีบหนีออกนอกตอแหลแลนด์บินกลับอเมริกาแทบไม่ทัน ฉนั้น ข้าพเจ้าว่าระหว่าง Hepatitis C ที่ติดจากการแชร์มีดโกน กับ เอดส์ ที่ติดจากการที่เอดส์ ปี้ไม่เลือกหน้า ความเป็นไปได้ว่าจะเป็น Hepatitis C มีไม่ถึง 0.01% สรุป พ่อก็เป็นง่อย ผสม พาร์กินสัน ลูกชายก็เป็นเอดส์ หลานชายก็ปัญญาอ่อน อนาคตของคณะลิเกลวงโลกตอแหลนี้น่าจะฉิบหายในไม่ช้าอย่างแน่นอน มารอดูความพินาศฉิบหายของคณะลิเกอัปรีย์จัญไรกันดีกว่าพวกเรา 

ติดตามชม ลิเก สตอรี่ Episode 4 เร็วๆ นี้ นะฮ่ะ